ใครที่กำลังลองหัดวิ่งแล้วเหนื่อยง่าย หรือเจ็บเข่า เราได้รวบรวมวิธีวิ่งที่ถูกต้องมาให้คุณแล้ว

การวิ่งเป็นหนึ่งในวิธีการออกกำลังกายยอดนิยมของคนทุกเพศทุกวัย เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ง่าย แทบไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไร แถมวิ่งตอนไหนหรือที่ไหนก็ได้ อย่างไรก็ตามนักวิ่งหัดใหม่อาจประสบกับปัญหาเหนื่อยง่ายหลังออกไปวิ่งได้ไม่นาน หรือมีอาการเจ็บเข่า ข้อเท้า หรือขาจากการวิ่ง ดังนั้นลองอ่านเทคนิคการวิ่งง่ายๆ ไม่ว่าคุณจะวิ่งกลางแจ้งนอกบ้าน หรือวิ่งบนลู่ในยิม ที่เรารวบรวมมาให้คุณแล้ว

การวอร์มร่างกายก่อนและหลังวิ่ง

การอบอุ่นร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเป็นการช่วยยืดกล้ามเนื้อ ก่อนวิ่งคุณควรเดินเร็วหรือวิ่งเหยาะๆ ประมาณ 5-10 นาทีก่อนวิ่งจริง เมื่อวิ่งเสร็จ อย่าหยุดทันที เพราะอาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน และเป็นลมได้ เปลี่ยนมาวิ่งเหยาะๆ หรือเดินเร็วก่อน 4-5 นาทีแล้วค่อยหยุดพัก

การลงเท้าและท่าวิ่งที่ถูกต้อง

การวิ่งที่ถูกต้อง คุณควรลงด้วยส้นเท้าก่อนเสมอ จากนั้นตามด้วยฝ่าเท้า เมื่อปลายเท้าแตะพื้นและส้นเท้าเปิดขึ้น ท่าทางที่ถูกต้องจะเหมือนการถีบตัวไปข้างหน้า เพื่อรักษาข้อเท้าระหว่างการวิ่ง สำหรับท่าวิ่งนั้น คุณควรวางท่าทางเหมือนธรรมชาติ ตัวตรง มองไปข้างหน้า กำมือหลวมๆ และแกว่งเป็นจังหวะ คุณควรหายใจเข้าด้วยจมูก และหายใจออกผ่านทั้งทางจมูกและปากไปพร้อมๆ กัน

เวลาและสถานที่วิ่งที่เหามะสม

ความจริงแล้วคุณสามารถวิ่งที่ไหนหรือเมื่อไหร่ก็ได้ ข้อควรระวังคือไม่ควรวิ่งก่อนหรือหลังเวลารับประทานอาหารประมาณ 90 นาที และหลีกเลี่ยงเวลาเที่ยงที่อากาศร้อนจัด หากเลือกวิ่งนอกยิมโดยไม่ใช้ลู่วิ่ง หลีกเลี่ยงการวิ่งในสถานที่ที่มีทางโค้งหรือทางเลี้ยวมุมแคบบ่อยๆ เพราะอาจสร้างอาการบาดเจ็บให้กับข้อเข่าและข้อเท้าได้

ความถี่และความหนักในการวิ่ง

ช่วงวิ่งแรกๆ คุณอาจจะรู้สึกเหนื่อยเร็ว หากไม่ได้ออกกำลังกายบ่อยๆ พยายามวิ่งให้ได้อย่างน้อย 5-10 นาที เมื่อรู้สึกว่าอึดขึ้นแล้ว ค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ สักทีละ 5-10 นาที โดยไม่หักโหมจนเหนื่อยเกินไป เพราะอาจทำให้คุณท้อแท้หรือบาดเจ็บได้ ช่วงแรกคุณอาจวิ่งสลับเดิน แล้วเมื่อวิ่งได้สักพักแล้ว คุณควรค่อยๆ เพิ่มเวลาวิ่ง และลดเวลาเดินลงแทน

นอกเหนือจากการเตรียมร่างกายให้เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเตรียมชุดออกกำลังกายและข้าวของเครื่องใช้ เช่น น้ำ ผ้าขนหนู หรือแม้กระทั่งนาฬิกาอัจฉริยะ (Smart watch) ให้พร้อม เมื่ออกกำลังกายเสร็จ รีบถอดชุดของคุณเพื่อป้องกันคราบเหงื่อฝังลึกในเนื้อผ้า นอกจากนี้อย่าลืมตรวจสอบว่าชุดออกกำลังกายมีคราบอื่นๆ และหาวิธีขจัดคราบก่อนซักทำความสะอาด เช่น วิธีกำจัดคราบสกปรกจากดินที่กระเด็น หรือวิธีขจัดคราบสนิมบนเสื้อผ้า ที่เกิดจากสนิมบนซิป หรือการเฉี่ยวชนโลหะระหว่างการวิ่ง เพื่อรักษาให้ชุดออกกำลังกายอยู่กับคุณไปได้นานๆ